‘The Base เพชรเกษม’ มูลค่าโครงการ 1,850 ลบ.

The Base เพชรเกษม

The Base เพชรเกษม

                บีทีเอส-แสนสิริ ลุยเปิด ‘The Base เพชรเกษม’ คอนโดมิเนียมแบรนด์ The Base โครงการที่ 2 ภายใต้ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เผยคอนโดฯ ย่านเพชรเกษม-บางแค อัตราตอบรับดี รับสายสีน้ำเงินคืบกว่า 80% เริ่ม 1.99 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 2,999 บาท/เดือน

                บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เดินหน้าพัฒนาคอนโดฯ ในแนวรถไฟฟ้า ล่าสุดเปิดตัว “The Base เพชรเกษม” จำนวน 640 ยูนิต มูลค่า 1,850 ล้านบาท รับ Demand อยู่อาศัยจริงในย่านเพชรเกษม–บางแค จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินที่การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% เผยคอนโดมิเนียมย่านเพชรเกษม–บางแค ใกล้รถไฟฟ้าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอัตราตอบรับดี โดยแสนสิริประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดฯ ในทำเลนี้ไปแล้วถึง 4 โครงการ พร้อมส่ง ‘The Base เพชรเกษม’

                ชูแนวคิด “ทุกโหมดของชีวิต” ครั้งแรก!! ที่คอนโดฯ ครบทุกการเดินทางทั้งรถ เรือ ราง สามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ MRT เพชรเกษม 48 เมตร เพียง 120 ม. และครั้งแรก!! ที่ Facility จัดเต็มครบทุกโหมดของการใช้ชีวิต โดดเด่นด้วย Sky Fitness 2 ชั้น บนชั้น 28 และ 30 และรายแรกของวงการอสังหาฯ!! ที่เปิดประสบการณ์ซื้อที่อยู่อาศัยผ่าน “SAMSUNG pay” พร้อมเปิดจองผ่าน “SANSIRI ONLINE BOOKING” จองยูนิตพิเศษผ่านออนไลน์ ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 2,999 บาท/เดือน

              คุณวรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ และ แสนสิริ ได้ร่วมทุนกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน โดยล่าสุดได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ THE BASE โครงการแรกของปีนี้ ในชื่อโครงการ “The Base เพชรเกษม” จำนวน 640 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,850 ล้านบาท นับเป็น The Base โครงการที่ 2 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ได้เปิดตัว “The Base การ์เดน-พระราม 9″ ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และยอดขายทะลุ 90% ใกล้ปิดการขาย

                 The Base เพชรเกษม ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง อยู่ใกล้กับ MRT สถานีเพชรเกษม 48 เพียง 120 เมตร โดยเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง–บางแค) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562 ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะขยายความสะดวกไปทางโซนธนบุรี ทำให้หลายๆ พื้นที่ที่รถไฟฟ้าสายนี้ผ่านมีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านเพชรเกษม
               ซึ่งเป็นทำเลที่มีจุดเด่นหลากหลาย มีความเป็นชุมชนเก่า ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งศูนย์การค้า เช่น The Mall-บางแค Seacon Square ตลาดบางแค โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหารเก่าแก่มากมาย และเป็นโซนที่สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจได้ไม่ยาก ทั้งทางรถไฟฟ้า และถนนหลายเส้นทาง จากถนนเพชรเกษมสามารถเดินทางไปทางถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือไปวงเวียนใหญ่ที่เชื่อมไปออกสาทรได้ รวมไปถึงถนนกัลปพฤกษ์ซึ่งสามารถไปสีลม สาทรได้อย่างสะดวกเช่นกัน
                จึงส่งผลให้ทำเลนี้มีอุปทานและอุปสงค์เติบโตสูงขึ้นทุกปี โดยอุปทานคอนโดมิเนียมปี 2012 อยู่ที่ 3,009 ยูนิต และเพิ่มขึ้นเป็น 6,893 ยูนิต ในปี 2016 หรือ เพิ่มขึ้นถึง 129% ส่วนอุปสงค์ ในปี 2012 เพิ่มจาก 2,508 ยูนิต เป็น 4,374 ยูนิต หรือ เพิ่มขึ้น 74% ในปี 2016 และพบอัตราการตอบรับในปัจจุบันที่ 63%
                โดยก่อนหน้านี้แสนสิริได้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในทำเลสาทร ตากสิน เพชรเกษม นับตั้งแต่เริ่มมีการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าจากเขตเมืองชั้นในสู่ชั้นนอกโดยเฉพาะทำเลย่านธนบุรี ได้แก่ คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Hive (ไฮว์) โครงการแรก ชื่อว่า Hive Sathorn จำนวน 363 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ปิดการขายภายใน 2 สัปดาห์ที่เปิดตัว
                นอกจากนี้โครงการที่เปิดตัวต่อเนื่อง คือ Hive Taksin จำนวน 365 ยูนิต มูลค่าโครงการขาย 1,510 ล้านบาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน รวมถึงโครงการ TEAL Sathorn-Taksin ทำเลถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เพียง 150 เมตร จำนวนทั้งสิ้น 409 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปิดการขายในปี 2556 และ Nye by Sansiri ซึ่งปิดการขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา
               นอกจากนี้ ทำเลเพชรเกษม ราคาที่ดินเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2011 ราคาที่ดินซื้อขายกันอยู่ที่ 100,000–110,000 บาท/ตารางวา และในปี 2015 เพิ่มขึ้นมาเป็น 160,000–200,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้นถึง 45–80% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เฉลี่ยสูงขึ้นอยู่ที่ปีละ 9% และโดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่ดินบริเวณที่ใกล้กับรถไฟฟ้าซึ่งติดกับถนนเพชรเกษม ราคาโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึงปีละ 13% ซึ่งเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วคาดว่าราคาที่ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวรถไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปีละ 10% อีกทั้งราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
               จากราคาเฉลี่ยประมาณ 68,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2012 เพิ่มมาอยู่ที่ 86,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2016 หรือเติบโต 27% และคาดว่าเมื่อรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จ ราคาจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 5% ขณะที่ราคา Re-sale โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ส่วนใหญ่สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น เช่น ห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร มีราคา Re-sale ที่สูงกว่าตอน on-sale ประมาน 30% ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปี และอัตราผลตอบแทนที่ได้จากการปล่อยเช่าห้องรูปแบบนี้อยู่ที่ประมาณ 5-6%
                 ‘The Base เพชรเกษม’ ชูแนวคิด ทุกโหมดของชีวิต ครบทุกการเดินทาง เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งรถ เรือ ราง อยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม สามารถเชื่อมต่อกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.ราชพฤกษ์ ถ.กัลปพฤกษ์ และย่านสาทร สีลมได้ง่าย ใกล้ท่าเรือเพชรเกษม 31 เพียง 300 เมตร ซึ่งเป็น “โครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ” จากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญ-ท่าเทียบเรือเพชรเกษม 69 รวมถึงยังใกล้ MRT สถานีเพชรเกษม 48 เพียง 120 เมตรอีกด้วย เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและปล่อยเช่า ซึ่งคาดว่าโครงการจะได้รับความสนใจที่ดีจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ

คุณวรางคณา กล่าว

 

               โครงการ The Base เพชรเกษม เป็นอาคารพักอาศัยความสูง 30 ชั้น มีห้องให้เลือก 2 แบบ แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 23.00-32.50 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 44.00-52.25 ตร.ม. ทำเลที่ตั้ง อยู่บนถนนเพชรเกษม อยู่ระหว่าง ซ.29 กับ ซ.29/1 ออกแบบภายใต้แนวคิด “Living with Nature” ให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่สีเขียวที่ต้องการให้ทุกชีวิตได้เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติ พร้อมรองรับทุกความต้องการด้วยทุกโหมดของชีวิต

โหมด…เปิดรับความร่มรื่น กับอุโมงค์ไม้เลื้อยที่รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เชื่อมต่อกับ Welcome Pavilion ที่นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่

โหมด…เพลิดเพลินไปกับจังหวะของสายน้ำ พื้นที่ริมน้ำทอดตัวยาวตลอดแนวลำคลองภาษีเจริญ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ระเบียงริมน้ำ

โหมด…ทำงานอย่างสร้างสรรค์ กับ Co-working Space ที่จัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับการทำงานแบบส่วนตัว และแบบทีม และยังปรับสู่โหมดความบันเทิงได้ทันทีให้กลายเป็นห้องดูหนังได้

โหมด…ดูแลสุขภาพ กับ Sky Fitness ที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำยาว 40 ม.เปิดโหมดการชมวิวที่ไม่เหมือนใคร พร้อมสำหรับทุกการพักผ่อน

 

              ทั้งนี้ แสนสิรินับเป็นผู้นำรายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการให้บริการ “SAMSUNG pay” ชำระเงินจองผ่าน Smartphone รูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินจอง หรือค่าบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายโดยการเพิ่มบัตรเครดิตที่มีอยู่ลงไปใน Smartphone โดยบัตรเครดิตธนาคารที่สามารถใช้ SAMSUNG pay ในขณะนี้ได้แล้วใน 6 ธนาคาร ได้แก่ KTC, SCB, KBANK, Krungsri, Bangkok Bank และ CITIBANK และแบงก์อื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัลให้การซื้ออยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย สร้างความสะดวกสบายตอบรับทุก Lifestyle ของลูกบ้านแสนสิริอย่างต่อเนื่อง

               นอกจากนี้ แสนสิริยังได้เปิดจองที่อยู่อาศัยผ่านทาง “SANSIRI ONLINE BOOKING” พร้อมมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษเพิ่มสูงสุดกว่า 100,000 บาท ซึ่งผลตอบรับหลังจากเริ่มเปิดจองผ่าน SANSIRI ONLINE BOOKING ในช่วงเสาร์–อาทิตย์ ที่ 13-14 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าลูกค้าเข้าจองผ่านระบบคิดเป็นจำนวนถึง 60% จากจำนวนห้องที่เปิดขายผ่าน SANSIRI ONLINE BOOKING ซึ่งนับว่าได้รับการตอบรับที่ดี

 

ที่มา : www.ryt9.com/s/prg/2648913          /       ภาพ : www.homenayoo.com

Leave a Reply