คืบหน้า สายสีทอง ‘กรุงธนบุรี-ประชาธิปก’

รูปที่ 1 คืบหน้า สายสีทอง

ใกล้เป็นจริงรถไฟฟ้า คืบหน้า สายสีทอง “ไอคอนสยาม-กทม.”

          ใกล้เป็นจริงรถไฟฟ้า คืบหน้า สายสีทอง “กทม.-ไอคอนสยาม” แมตชิ่งธุรกิจ แจ้งเกิดโครงการเฟสแรก “กรุงธนบุรี-ประชาธิปก” จ้างกรุงเทพธนาคม-บีทีเอสก่อสร้างพ่วงเดินรถ วงเงินกว่า 2.5 พันล้าน งัด ม.44 ประมูลคู่ขนานขออีไอเอ เร่งตอกเข็มปลายปีนี้ เปิดใช้ปี′60 รองรับศูนย์การค้ายักษ์-หอชมเมือง-แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำ

ไอคอนสยาม แจ้งเกิดโครงการเฟสแรก คืบหน้า สายสีทอง “กรุงธนบุรี-ประชาธิปก”

          แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองจากบีทีเอสสถานีกรุงธนบุรี-ถนนประชาธิปก) ระยะทาง 2.7 กม. มี 4 สถานี ใช้เงินลงทุนรวม 3,845.70 ล้านบาท จะเป็นการพัฒนารูปแบบแมตชิ่งธุรกิจระหว่างกลุ่มไอคอนสยามกับ กทม.พัฒนาโครงการระยะแรก ระยะทาง 1.8 กม. มี 3 สถานี เงินลงทุน 2,512 ล้านบาท จะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ที่จะใช้เวลาร่วม 1 ปีกว่าจะได้รับการอนุมัติโครงการ

          “วิธีการ คือ เอกชนคือกลุ่มไอคอนสยามจะสนับสนุนเงินลงทุนให้กว่า 2 พันล้านบาทให้ กทม.เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดทั้งทำผลการศึกษาโครงการ ออกแบบและประมูลก่อสร้าง โดยจะจ้างกรุงเทพธนาคม รัฐวิสาหกิจของ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการเดินรถ คาดว่าจะจ้างบีทีเอสเป็นผู้เดินรถให้ ส่วนกลุ่มไอคอนสยามนอกจากจะได้รถไฟฟ้าเพื่อรองรับการเดินทางคนเข้าไปในโครงการแล้ว ยังจะได้สิทธิ์พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และโฆษณาภายในสถานีและตัวรถไฟฟ้า ซึ่งจะแปลงรายได้ส่วนนี้มาเป็นการลงทุนงานโยธา”

           นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและการขนส่ง (สจส.) กล่าวว่า ขณะนี้ผลการศึกษาโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว เตรียมจะเสนอให้ผู้บริหาร กทม.รับทราบและเห็นชอบในเดือน เม.ย.นี้ ทั้งนี้หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งใช้มาตรา 44 ในการดำเนินโครงการคู่ขนานกับรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA)

          ล่าสุด กทม.ได้เตรียมจะนำใช้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองด้วย โดยระหว่างรอการอนุมัติอีไอเอจะเสนอโครงการให้กระทรวงมหาดไทยและคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้เร็วขึ้นอาจจะเริ่มได้ภายในปลายปีนี้ เพื่อให้แล้วเสร็จในปี 2560 หรืออย่างช้าในปี 2561

          เนื่องจากโครงการมีระยะทางสั้นและเป็นรูปแบบรถไฟฟ้าโมโนเรล ทำให้การก่อสร้างไม่ยุ่งยากและไม่มีเวนคืนที่ดิน ขณะเดียวกัน กทม. ต้องหารือกระทรวงมหาดไทยขอยกเว้นพื้นที่รัศมี 25 ตร.กม.รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เนื่องจากแนวเส้นทางพาดผ่านพื้นที่ดังกล่าว

           นายทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับการก่อสร้างและการเดินรถไฟฟ้าทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด รัฐวิสาหกิจของ กทม.มีความสนใจจะลงทุนโครงการเอง โดยใช้งบประมาณจากบริษัทและกลุ่มผู้สนับสนุน คือ กลุ่มไอคอนสยามที่สนใจจะลงทุนในเฟสแรก โดยเป็นการทำธุรกิจร่วมกันภายใต้กรอบโครงการที่ กทม.กำหนด ทำให้การลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น

           สำหรับแนวเส้นทางระยะแรก มีระยะทาง 1.8 กม. จำนวน 3 สถานี คือ 1.สถานีกรุงธนบุรีต่อเชื่อมกับบีทีเอส 2.สถานีเจริญนคร ตั้งอยู่บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง และ 3.สถานีคลองสาน เยื้องกับโรงพยาบาลตากสิน มีทางเดินหรือ Sky Walk เดินทางเข้าสู่โรงพยาบาลตากสินได้โดยตรง และจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง (หัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย) ใช้เงินลงทุน 2,512 ล้านบาท มีผู้ใช้บริการ 47,300 เที่ยวคนต่อวัน

           ส่วนระยะที่ 2 ระยะทาง 0.9 กม. มี 1 สถานี คือ สถานีประชาธิปก อยู่บริเวณซอยสมเด็จเจ้าพระยา 6 กับซอยสมเด็จเจ้าพระยา 8 อนาคตจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ตามแผนจะแล้วเสร็จปี 2566 ใช้เงินลงทุน 1,333 ล้านบาท คาดมีผู้ใช้บริการ 81,800 เที่ยวคน/วัน

           “หลังรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการจราจร ยังจะช่วยให้การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ที่บริเวณนี้จะมีหอชมเมืองอยู่ติดกับศูนย์การค้าไอคอนสยามด้วย” ผอ.สจส.กล่าวย้ำ

 

ภาพ : www.iconsiam.com   /  ข้อมูล : www.prachachat.net

Leave a Reply