Community Mall ย่านรามอินทรา แข่งขยายตัวพรึบ

Community Mall ย่านรามอินทรา

วิเคราะห์ทำเล Community Mall ย่านรามอินทรา ขยายตัวพรึบ

ทำเลขยายตัว Community Mall ย่านรามอินทรา แข่งดุ

            ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รามอินทราเป็นหนึ่งในย่านที่มีโครงการที่อยู่อาศัยขยายตัวจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีครัวเรือนที่พักอาศัยที่จดทะเบียนในระบบฐานข้อมูลของกรุงเทพมหานคร กว่า 25,246 หลังคาเรือน โดยนอกจากจะเป็นโครงการบ้านจัดสรรระดับกลางบนแล้ว ปัจจุบันยังเริ่มเห็นการเกิดของคอนโดมิเนียมด้วย เนื่องจากราคาที่ดินย่านนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของพื้นที่นี้เอง ด้วยเพราะเป็นย่านที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลายสาย และกระแสข่าวการเกิดของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) จำนวน 30 สถานี ระยะทาง 36 กิโลเมตร ที่มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564 ก็เป็นปัจจัยบวกสำคัญให้กับย่านรามอินทรา

            จากการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยในย่านรามอินทราสูง มีรถสัญจรไปมาตลอดวันกว่า 250,000 คัน ทำให้ความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในย่านนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้ง Lifestyle ของคนปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยใกล้บ้าน ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของคนย่านรามอินทรา ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ใกล้บ้าน เน้นสะดวกสบายเป็นหลัก เนื่องการจราจรในย่านนี้รถติดมาก การหาร้านอาหาร หรือ Supermarket เพื่อซื้อของกินของใช้ก็จะเน้นที่ใกล้เคียงที่เดินทางไม่ไกลมากนัก การเดินทางเข้าออกตัวโครงการสะดวก การไปใช้บริการประมาณ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์

              ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้แม้ว่าจะมี Community Mall ร้านอาหารกินดื่มเกิดใหม่ในย่านนี้ต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ล้วนได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเป็นย่านที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก มีความต้องการสูง และมีกำลังซื้อสูงเช่นกัน โดยในการสำรวจยังพบว่า ปัจจุบันมี Community Mall ย่านรามอินทรา อยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Amorini Boutique Lifestyle Mall, The Promenade หรือออกไปเส้นนวมินทร์เราจะพบกับ The Walk เป็นต้น แต่ยังไม่มี Community Mall ไหนที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนรามอินทราอย่าง ease park ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้

             ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในย่านนี้เกี่ยวกับโครงการ Community Mall กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ระบุว่า ทำเลที่ตั้งและการเข้าออกเป็นหัวใจสำคัญให้ต้องการเข้ามาใช้บริการ เพราะคนที่อยู่อาศัยย่านนี้ล้วนเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยบุคคลเป็นหลัก ซึ่งปัจจัยนี้ทำให้เชื่อมั่นว่าโครงการ “ease park” ที่ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา กม. 4.5 จะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีให้กับคนที่อยู่อาศัยในย่านรามอินทรา เพราะจุดแข็งอันดับแรกของโครงการนี้ ก็คือ Location ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่และหน้ากว้าง มองเห็นได้ชัดสำหรับคนที่สัญจรผ่านและเป็นจุดแวะพักของรถที่ผ่านไปมา อยู่ในแหล่งชุมชนพักอาศัยหนาแน่นปานกลาง

             สำหรับโครงการ ease park กม. 4.5 เป็นโครงการ Community Mall ย่านรามอินทรา สูง 3 ชั้น บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ 3.5 ไร่ ติดถนนรามอินทรา หน้ากว้าง 60 เมตร พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 7,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท ประกอบด้วยร้านค้าประมาณ 13 ร้าน และ kios ประมาณ 4 ร้าน (รวม 17 ร้าน)

            เริ่มจากชั้น 1 จะเป็น Supermarket ซึ่งเป็น Villa market และร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่าง Starbucks ที่เป็นแบบ Drive thru ส่วนชั้น 2 เป็นโซนของ ร้านอาหาร ซึ่งมีอาหารหลากหลายชนิดมากกว่า 10 ร้านดัง และส่วนพื้นที่ ชั้น 3 เป็นส่วนของ Health, Bueaty and Lifestyle ซึ่งประกอบไปด้วย Fitness, คลินิคเสริมความงาม, ร้านทำผม และ Nail spa และยังจัดให้เป็นโซนร้านนั่งชิลล์เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนอีกด้วย

             โครงการ ease park นับเป็นโอเอซิสแหล่งใหม่ของถนนรามอินทรา ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ผ่าน ใกล้สุดกับสถานีมัยลาภ โดยความคืบหน้าของโครงการ ease park ปัจจุบันมียอดจองพื้นที่ร้านค้าแล้วกว่า 80%  มีทั้งร้านที่เคยเปิดมาแล้ว และเป็นร้านใหม่ที่เข้ามาเปิดที่นี่เป็นที่แรก รวมถึงร้านที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันและเป็นที่นิยมกัน อย่าง Villa Market, Kingkong, Starbucks Drive thru, Neo Suki เป็นต้น ขณะนี้เริ่มเปิดให้บริการแล้วบางส่วน เช่น  Starbucks Drive thru, Neo Suki , นาตาชาคลินิก, ตำยั่วครกยักษ์ และจะเปิด Soft Opening ประมาณต้นเดือนมกราคมนี้

             ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจ Community Mall ย่านรามอินทรา ค่อนข้างสูง เป็นทำเลเข้าถึงง่ายนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Community Mall ย่านนี้ประสบความสำเร็จ แต่การสร้างจุดเด่นที่แตกต่างและการคัดเลือกร้านค้าใหม่ๆ มานำเสนอให้กับผู้บริโภคย่านรามอินทราก็เป็นหัวใจหลักสำคัญด้วยเช่นกัน

ภาพ : aboutliving        /       ที่มา : DDproperty

Leave a Reply