ส่องทำเลริม เจ้าพระยา ” สามเสน-บางโพ “

เจ้าพระยา

คอนโดฯหรูหมื่นล้าน52 ชั้น ริม เจ้าพระยา เดอะรูมสามเสน อ่วมชุมชนสามเสน-กรมชลประทาน-โรงเรียนราชินีบน ค้าน แลนด์แอนด์เฮ้าส์ขึ้นโครงการหวั่นกระทบวิถี-จราจรเผยมีอาคารรัฐสภาเกิดมีคนเข้าพื้นที่มหาศาล เด็กนักเรียนเดินทางลำบาก ด้านทนายความ ตระกูลโยธาสมุทร ยันคดียังไม่สิ้นสุด

ถนนสามเสน เขตบางซื่อ ย่านชุมชนเก่า กิจการโรงเลื่อยเก่าเนื่องจากชัยภูมิติด เจ้าพระยา จึงเหมาะส่งผ่านสินค้าทางนํ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน มีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐเกิดขึ้น อย่างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณเกียกกาย สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายทางรางระดับอาเซียนสะพานข้ามแม่นํ้า เจ้าพระยา ถนนตัดใหม่เชื่อมโยงโครงข่าย ทำให้ทำเลการค้าที่ว่า กลายเป็นทำเลทองคอนโดมิเนียม โรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ขึ้นแทนที่

เช่นเดียวกับยักษ์อสังหาริมทรัพย์เบอร์ 1 ของเมืองไทย บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จำกัด (มหาชน ) มักสร้างอาณาจักรริมแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับความต้องการของคนที่อยากมีบ้านริมนํ้านอกจาก โซนสถานีบางโพ ส่วนต่อขยายสายสีนํ้าเงินแล้ว ค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ซื้อที่ดิน โรงเลื่อยและบ้านอยู่อาศัยเก่าแก่ริมนํ้าเจ้าพระยาที่ดินแปลงใหญ่ 17 ไร่เศษ มูลค่า 15,000 ล้านบาทสร้าง โครงการ เดอะรูม สามเสน คอนโดมิเนียมหรู 5 อาคารประกอบด้วย ทาวเวอร์เอ สูง 43 ชั้น จำนวน 636 หน่วย ทาวเวอร์บี สูง 52 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น สูงสุด 52 ชั้น รองรับกลุ่มคนที่จะเข้าพื้นที่อย่างไร้คู่แข่ง

แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาฟ้องร้องต่อศาลชั้นอุทธรณ์ ระหว่างตระกูล อินทรไทยวงศ์ ที่นำที่ดินไปขายให้กับแลนด์แอนด์เฮ้าส์และตระกูล โยธาสมุทร ในฐานะผู้จัดการมรดกตัวจริง แม้ศาลชั้นต้นจะพิจารณาให้แลนด์แอนด์เฮ้าส์ชนะคดีแต่ถือว่า ยังไม่สิ้นสุด

ที่สำคัญแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังเดินหน้า พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียม 1,628 หน่วย และอยู่ในขั้นตอน ยื่น
ขออนุญาตทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ อีไอเอ

วันที่26 ตุลาคม 2562 “ฐานเศรษฐกิจ” สังเกตการณ์ การเปิดรับฟังความคิดเห็น ชุมชนรอบพื้นที่ พบคนส่วนใหญ่ยังกังวลไม่เห็นด้วยกับโครงการที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ ปัญหาจราจรบนถนนสามเสน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่นกรมชลประทาน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีคนเข้าใช้พื้นที่จำนวนมากเช่นเดียวกับกลุ่มคนนับถือศาสนาอิสลามไม่เห็นด้วยกับผลกระทบของมัสยิดที่อาจถูกรื้อ และเด็กนักเรียนโรงเรียนราชินีบน ที่ต้องสัญจรผ่านหน้าโครงการ

ทั้งนี้ตัวแทนของกรม ชลประทาน สะท้อนว่า ชุมชนยังไม่เห็นด้วยกับการมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบนถนนสามเสน ตั้งแต่สามเสน21-23 เพราะ 1. ปริมาณรถเพิ่มขึ้นสร้างความแออัดในพื้นที่ 2. มีเด็กนักเรียน และผู้ปกครองสัญจรจำนวนมากกว่า 2,000 คน 3.ตั้งข้อสังเกต โรงเรียนราชินีบน เคยขออนุญาตสร้างอาคารสูง 8ชั้น แต่ถูกระงับ เพราะอยู่ในเขตปลอดภัยของอาคารรัฐสภา แต่คอนโดมิเนียมของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ห่างจากโรงเรียนเพียง 12เมตร แต่สร้างสูงได้ 53 ชั้น 4. ที่ดินยังมีคดีฟ้องร้อง 5.โครงการเป็นลักษณะไฮเอนด์มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ราคาขายต่อหน่วยหลายสิบล้านบาท มองว่าไม่มีส่วนสร้างรายได้ให้กับชุมชนเช่นการค้าขาย 6. ชุมชนต้องการรักษาวิถีดั้งเดิมไว้ ฯลฯ

“ซอยสามเสน 21 อนาคตจะหายไปกลายเป็นทางเข้าโครงการ จะเหลือ แค่ สามเสน 19 และ 23”

ผู้แทนกรมชลประทาน อธิบายต่อว่า โดยสรุป ชาวบ้านยังเป็นห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งสถานที่ราชการ ชุมชน และโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากให้บริษัทที่ปรึกษาเสนอข้อมูลที่เป็นจริงให้กับชุมชนและ คณะผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อมฯ

ด้าน บริษัทไท-ไท วิศวกร จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความมั่นใจกับชุมชนว่าสามารถสร้างความมั่นใจไม่สร้างผลกระทบให้กับชุมชนโดยเฉพาะในระหว่างก่อสร้างจะมีการแก้ปัญหาฝุ่นละออง ลดผลกระทบทางเสียง

ด้านทนายความของตระกูล โยธาสมุทร ยืนยันว่า คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ และไม่อนุญาตให้ใครเข้าพื้นที่ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

Leave a Reply