โหมไฟ ระบายสต๊อก ! “บิ๊กเนม” ลุยเต็มพิกัด

ระบายสต๊อก

ตลาดอสังหาฯ ร้อนฉ่า! ลุยโปรร้อนเต็มสูบแต่ต้นปี ระบายสต๊อก ในมือ ก่อนเส้นตายมาตรการคุมสินเชื่อบ้านเริ่มวันที่ 1 เม.ย. 2562 ‘พฤกษา’ ตั้งเป้าโละ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งบ้านจัดสรร-คอนโดฯ ชี้! แข่งขันรุนแรงสุดในรอบหลายปี

เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายต่างพากันกังวล สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ที่ต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่อาจจะเข้ามากระทบโดยตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย มาตรการคุมสินเชื่อบ้านใหม่ (LTV) ของ ธปท. หนี้ครัวเรือน การเมือง และเศรษฐกิจโลกผันผวน อีกทั้งสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีน ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของผู้ซื้อ ทั้งในประเทศและต่างชาติ

หากดูตัวเลขอุปทานและอัตราการขายของคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 รวมกันประมาณ 464,706 ยูนิต มูลค่าทั้งหมดประมาณ 3,311,934 ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถขายไปแล้วประมาณ 325,693 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,461,678 ล้านบาท หรือประมาณ 70.08% และยังมีหน่วยที่เหลือขายอยู่ในตลาดประมาณ 139,013 ยูนิต ด้วยมูลค่าประมาณ 850,256 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.02% จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด ในจำนวนนี้มีอุปทานสร้างเสร็จรอการขาย รวมทั้งสิ้นประมาณ 71,236 ยูนิต ประกอบด้วย บ้านจัดสรร 31,473 ยูนิต 207,577 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 39,763 ยูนิต 242,520 ล้านบาท

งทุน เนื่องจากทราบกันดีว่า ปัจจุบัน ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ได้กลับมาไม่คุ้มกับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป ซึ่งผลตอบแทนจากการเช่าส่วนใหญ่ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3.5-5% เท่านั้น

“ขณะนี้ มีดีเวลอปเปอร์หลายรายนำโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม มาลดราคาเป็นการ ระบายสต๊อก คงค้าง ก่อนมีการปรับอัตรา LTV ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 เม.ย. นี้”

ทั้งนี้ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดแข่งขันรุนแรงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากปัจจัยลบต่าง ๆ โดยเฉพาะการคุม LTV ฉะนั้นก่อนจะถึงวันที่ 1 เม.ย. 2562 แต่ละบริษัทจะนำโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จรอการขายมาจัดโปรโมชันพิเศษเพื่อ ระบายสต๊อก ในส่วน บมจ.พฤกษา มี 1 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 3,000 ยูนิต ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในสัดส่วนอย่างละครึ่ง

“ตลาดอสังหาฯ ทั้งปี 2562 คาดการณ์จะเติบโตครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 5% ทุกบริษัทต้องปรับตัว เราเองก็จะหันมาเน้นแนวราบ พร้อมใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้ามาประเมิน วิเคราะห์ตลาด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”

สำหรับโปรโมชันที่แต่ละค่ายนำจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อช่วงไตรมาสแรก เช่น ค่ายเอพี นำทาวน์โฮม บ้านกลางเมือง 19 ทำเล ให้สิทธิพิเศษภายใต้แคมเปญอยู่ฟรี 10 ปี ผ่อน 10 เท่า โดยฟรีค่าส่วนกลาง 10 ปี และช่วยผ่อนสูงสุด 2 หมื่นบาทนาน 10 เดือน, ค่ายพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บ้าน-ทาวน์โฮม 34 โครงการ ลดสูงสุดกว่า 1 ล้าน พร้อมข้อเสนอ, ค่ายเสนา “ลดทะลุพิกัด” จอง ทำสัญญา โอน ตั้งแต่วันนี้จนกว่ายูนิตพิเศษจะหมด (จำนวนจำกัด) พร้อมข้อเสนอ 1.ดาวน์ 0 บาท 2.กู้ 100% 3.รับส่วนลดเกือบ 1 ล้านบาท, ค่ายอนันดา “000 DEALS” โปรฯ เสียศูนย์ สัญญา 0 บ. ผ่อน 0 บ. จ่าย 0 บ. กับ 10 คอนโดฯ พร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า, ค่ายโนเบิล “ระเบิดราคาส่งท้ายปี” คอนโดฯ พร้อมอยู่ “โนเบิล เพลินจิต” ราคา 1.9 แสนบาท/ตร.ม. ลด 30% จากเดิมราคา 3 แสนบาท/ตร.ม. มี 40 ยูนิต

างงานและการขึ้นโครงการใหม่/ยูนิต มีค่าความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 56.1 จุด แต่ค่าดัชนียังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 ส่วนผู้ประกอบการกลุ่มจดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 42.3 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 45.2 จุดเช่นกัน โดยมีค่าดัชนีตํ่ากว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงว่า ผู้ประกอบการกลุ่มนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความกังวลและขาดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 60.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.5 จุด เนื่องจากคาดหวังว่า ภาวะเศรษฐกิจจะมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง โดยความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในการเปิดโครงการใหม่และด้านการลงทุน จึงทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

Leave a Reply