เตรียมพบเซอร์ไพรส์ใหม่จาก เอพี ต้อนรับโครงการแรกปี 2019 กับคอนโดใหม่ล่าสุดบนทำเลสุขุมวิท ที่เปิดตัวด้วยราคา ต่อ ตร.ม. ไม่ถึงแสน พร้อมกับจะได้เห็นการยกระดับครั้งใหม่ของ NEW ASPIRE 2019 ที่ฉีกลุคแบบเดิมๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนโฉมทั้งหน้าตาอาคาร และสไตล์การตกแต่งภายในที่ดูหรูหราและทันสมัยขึ้น พร้อมทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่มีดีไซน์เฉพาะตัว เสมือนได้พักผ่อนอยู่ในบูติกรีสอร์ทสุดหรู ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่รักการใช้ชีวิตอย่างมีสีสันและมีรสนิยม เปิดตัวบนทำเลสุดฮ็อตอย่าง “อ่อนนุช” ที่มีศักยภาพเติบโตไปอย่างก้าวกระโดดในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท* ตอบโจทย์ทุกความคุ้มค่าไม่ว่าจะอยู่เองหรือลงทุน กับโครงการ “ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช” ซึ่งจะเปิด Pre-sale ครั้งแรก 2-3 มี.ค. นี้
“อ่อนนุช” ทำเลทางเลือกของความศิวิไลซ์ใจกลางเมือง ในราคาที่คุ้มค่า จับต้องได้จริง สำหรับคนรุ่นใหม่
สุขุมวิท 77 หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า ถนนอ่อนนุช ถือเป็นถนนเส้นสำคัญของกรุงเทพฯ มีความยาวถึง 12.2 กิโลเมตร ขนานไปกับคลองพระโขนงและคลองประเวศบุรีรมย์ เป็นโซนสุขุมวิทตอนปลายที่มีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อครั้งที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวสิ้นสุดแค่สถานีอ่อนนุช และมีศักยภาพในการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและการคมนาคม เหมาะที่จะเลือกสรรไว้เป็นที่พักอาศัยในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ปัจจุบันอ่อนนุชกลายเป็น Hub ที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 รองจากย่านเอกมัย-ทองหล่อ และเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนในเรื่องกินเรื่องอยู่ เนื่องจากเป็นเขตชุมชนที่มีลักษณะประชากรหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มเศรษฐีเก่าแก่ กลุ่ม New Rich กลุ่มมนุษย์เงินเดือน กลุ่มนักศึกษา ไปจนถึงกลุ่มชาวบ้าน ทำให้เป็นย่านนี้มีร้านรวงหลากหลายสไตล์ไม่ซ้ำแบบ เหมาะกับคนที่ชอบความหลากหลาย ความคึกคัก หาของกินง่าย และชอบเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก โดยเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่าง อโศก สยาม สาทร หรือ สีลม ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ในขณะเดียวกันถนนหนทางรอบๆ ยังสามารถเชื่อมต่อกับซอยหรือถนนสายอื่นๆ ได้อีก อาทิ พระโขนง เพชรบุรี พัฒนาการ และศรีนครินทร์ ซึ่งก็มีซอยลัด ซอยย่อย อีกมากมายให้เลือกใช้ออกไปได้เช่นกัน
ด้วยความสะดวกสบาย ประกอบกับมีสถานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทุกรูปแบบที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตนี้เอง ทำให้ย่านอ่อนนุชได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น เพียบพร้อมไม่แพ้กับโซนใจกลางสุขุมวิท ทำให้ราคาขายคอนโดในย่านนี้ ปรับขึ้นมามากกว่าปีละ 7-8% เป็นอีกทำเลที่ให้ผลตอบแทนจากการเช่า หรือ Rental Yield ที่ค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ 5-7% เลยทีเดียว โดยตลาดผู้เช่าบนทำเลอ่อนนุช ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ที่ได้ขยับขยายออกมาจากย่านเอกมัย-ทองหล่อ เพราะผู้เช่าต่างชาติเหล่านี้ มองว่าการขยับออกมาอยู่ย่านอ่อนนุช ก็สามารถไปไหนมาไหนสะดวกไม่แพ้กัน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีครบเหมือนกัน ทั้งที่อัตราค่าเช่าไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราค่าเช่าคอนโดย่านใจกลางเมือง เพราะสุขุมวิทถือเป็นทำเลทองตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ย่านพักอาศัยตั้งแต่พร้อมพงษ์-เอกมัยนั้น ราคาแนบสนิทชิดเพดานไปแล้ว โดยทำเลที่ห่างออกไป ถ้าเทียบกับย่านพระโขนง แม้จะขยับเข้าใกล้ตัวเมืองมากกว่า แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของอ่อนนุช ทำให้ย่านนี้สามารถเจริญเติบโตได้มากกว่า
เพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สู่การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของคนกรุง
อ่อนนุชเป็นย่านชุมชมเดิมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เป็นจำนวนมาก สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ในละแวกนี้จึงเต็มไปด้วย ห้างสรรพสินค้า, Community Mall, Co-Working Space, ร้านอาหาร, ร้านคาเฟ่ชิคๆ, ร้านค้าตามอาคารพาณิชย์ ไปจนถึงตลาดขายกับข้าวตลอดถนนทั้งสองฝั่ง โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ไหนไกล อาทิ Big C, Tesco Lotus, Century Movie Plaza, The Phyll รวมถึงโครงการ Community Mall ในอนาคตอย่าง People Park ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ของคนอ่อนนุช
จึงไม่น่าแปลกใจหากการพัฒนาแหล่งการค้า ร้านอาหาร และความบันเทิงต่างๆ ในย่านอ่อนนุชจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ถ้าอยากจะไปห้างสเกลใหญ่ก็ต้องขับออกไปไกลหน่อย อย่างเส้นบางนา-ตราดก็จะมีเซ็นทรัลบางนา และ Mega บางนา อยู่ หรือถ้าออกไปทางศรีนครินทร์ก็จะมีห้าง Seacon Square กับ Paradise Park
นอกจากนี้ ในโซนอ่อนนุช และบริเวณละแวกใกล้เคียง ยังมีสถาบันการศึกษาและโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง Bangkok Prep, Wells, Angelo Singapore, Saint Andrew’s สุขุมวิท 71 และเอกมัย, โรงเรียนศรีวิกรณ์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท ในด้านทำเลใกล้สถานพยาบาลก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อช่วยเพิ่มความอุ่นใจยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุได้ ก็มีทั้ง โรงพยาบาลสุขุมวิท และโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท อยู่ไม่ไกล สำหรับการรักษาแบบฉุกเฉินหรือการรักษาในระยะยาว แม้แต่ในซอยอ่อนนุชเองก็ยังมีสถานพยาบาลเวชกรรมและคลินิกให้เลือกใช้บริการอีกมากมาย สำหรับยามเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ แถมอ่อนนุชก็ยังเป็นที่ตั้งของวัดวาอารามชื่อดังอย่าง วัดยาง และวัดมหาบุษย์ ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งของศาลย่านาค ตำนานรักแห่งพระโขนง ที่หลายคนนิยมไปขอโชคลาภหรือขอพรด้านความรักนั่นเอง
ที่ตั้งโครงการ และความสะดวกสบายในการเลือกเดินทาง
โครงการ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช ตั้งอยู่ที่ซอยอ่อนนุช 21 อยู่ติดริมฝั่งคลองพระโขนง สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้วต่อรถโดยสารก็สะดวก โดยทางโครงการมีรถตู้ Shuttle Bus บริการรับส่ง ไป-กลับ รถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ให้อีกด้วย
สำหรับคนที่เลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีอ่อนนุช ซึ่งตัวสถานีจะเลยห่างออกไปจากปากซอยอ่อนนุชอยู่ไม่ไกล สามารถเดินได้ ซึ่งถ้าจะต่อรถแบบสะดวกๆ โดยไม่อยากเสียเวลาอ้อมหรือยูเทิร์นใหม่ แนะนำให้เดินย้อนขึ้นมาถึงหน้าห้าง Big C หรือเดินตัดผ่านซอยลัดด้านหลังห้าง ซึ่งเป็นตลาดที่มีคนเดินผ่านเกือบตลอดเวลา แล้วข้ามฝั่งมาต่อรถโดยแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ ตรงปากซอยอ่อนนุช 1/1 บอกไปซอยอ่อนนุช 21 แล้วตรงเข้าถึงโครงการ
ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือ รถสองแถว ราคา 8 บาทตลอดสาย ซึ่งจะวิ่งยาวออกไปถึงถนนศรีนครินทร์ วัดศรีเอี่ยม ยิ่งถ้าใครชอบกลับบ้านมืดๆค่ำๆ ก็มีให้เรียกจนถึงช่วงดึกๆ เลย ส่วนรถเมล์ที่วิ่งผ่านในซอยอ่อนนุช มี 2 สายคือ 519 (สวนสยาม-สาธุประดิษฐ์) และ 1013 (พระโขนง-หัวตะเข้) แล้วกดกริ่งลงหน้าปากซอย รวมถึงเรือหางยาวโดยสารคลองพระโขนง (พระโขนง-ตลาดเอื่ยมสมบัติ) สามารถมาขึ้นได้ตรงท่าเรือใต้สะพานพระโขนง แล้วมาลงที่ท่าด้านหลังโครงการ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ผู้อาศัยว่าจะสะดวกเลือกเดินทางแบบไหนที่สุด ส่วนการเดินทางเข้า-ออกเมืองเพื่อไปทำงานหรือไปเที่ยว นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว รถเมล์ที่ผ่านหน้าเส้นสุขุมวิทก็มีวิ่งผ่านหลายสายตลอดเกือบทั้งคืน
สำหรับคนที่เลือกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หากเดินทางมาตามถนนฝั่งขาออกของเส้นสุขุมวิท เมื่อข้ามสะพานคลองพระโขนง ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 77 แล้วตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงซอยอ่อนนุช 21 ขับเข้ามาจนสุดซอยอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ย่านอ่อนนุช เป็นโซนที่มีคนอยู่อาศัยค่อนข้างเยอะ และการจราจรค่อนข้างหนาแน่นในบางช่วงเวลา แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องความสะดวกในการเดินทาง ข้อดีส่วนหนึ่งและยังเหตุผลสำคัญที่ใครๆ ก็ยังสนใจเลือกอยู่อาศัยในย่านนี้อยู่ดี คงเป็นเพราะซอยอ่อนนุชเป็นถนนยาวเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ ยาวไปจนถึงเขตประเวศ และลาดกระบัง อีกด้วย ส่วนซอยต่างๆ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญได้ สามารถทะลุออกไปฝั่งคลองตัน ซอยสุขุมวิท 71, ถนนพัฒนาการ ตรงบริเวณแยกไฟแดงอ่อนนุช 17, ซอยสุขุมวิท 97 (บางจาก), ซอยสุขุมวิท 101/1 (ปุณณวิถี), สุขุมวิท 103 (อุดมสุข) และเชื่อมออกถนนบางนา-ตราดตรงด้านหลังเซ็นทรัลบางนาได้เลย
ยิ่งในช่วงเวลาเร่งรีบสามารถเลือกใช้ทางด่วนใกล้ๆ ได้ถึง 2 สาย ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สำหรับสายเฉลิมมหานครมีด่านในเลือกใช้ 2 จุดคือตรงสุขุมวิท 62 และตรงทางเรือคลองเตย ทางด่วนนี้ไปได้หลายที่ทั้ง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดีรังสิต รามอินทรา ส่วนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ต้องวิ่งผ่านเข้าโครงการ T77 ไปออกด้านด้านหลังจะสะดวกสุด แต่จะต้องเสียค่าผ่านทาง 20 บาท ซึ่งทางด่วนนี้จะไปได้ทั้งลาดพร้าว รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ พระรามเก้า ดินแดง ส่วนซอยสุขุมวิท 50 ตรง Tesco Lotus อ่อนนุช ยังสามารถเดินทางออกไปเชื่อมกับถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้อีกด้วย ซึ่งจะลัดไปออกทางถนนกล้วยน้ำไท แล้วมุ่งเข้าถนนพระราม 4 ช่วยประหยัดเวลาเดินทางไปได้อีกหน่อย
หากสนใจหาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ที่อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เน้นเดินทางสะดวก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน “อ่อนนุช” จึงเป็นอีกทำเลศักยภาพหนึ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้อย่างลงตัว
คอนโดคอนเซ็ปต์ใหม่สู่ความเป็นพรีเมี่ยมด้วยการพลิกโฉมดีไซน์แบบ “Colonial Pop Style”
โครงการ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช เป็นคอนโดขนาด Low Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ รวม 553 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ซอยอ่อนนุช 21 และอยู่ติดริมฝั่งคลองพระโขนง ซึ่งเป็นคลองอนุรักษ์ น้ำสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น ที่นอกจากจะมีความสงบเป็นส่วนตัวแล้ว ยังมีบรรยากาศที่ร่มรื่นต่อติดธรรมชาติและวิวโค้งน้ำ แถมได้รับลมพัดเย็นสบายอีกด้วย ทำให้โครงการนี้ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำมาเป็นแนวคิดการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ให้อารมณ์เหมือนได้พักผ่อนอยู่ใน Boutique Resort ระดับ Hi-End โดยเน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยมีพื้นที่สีเขียวและน้ำใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัย
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการนำดีไซน์สไตล์ Colonial POP เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบของแบรนด์ ASPIRE ที่เป็นการผสมผสานความลงตัวระหว่างความคลาสสิคหรูหราสไตล์ยุโรปในงานสถาปัตยกรรม กับความโมเดิร์นป๊อบสีสันสดใสจากการตกแต่งภายใน มาตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรสนิยมการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ และเต็มที่กับกิจกรรมในทุกๆ วัน ทำให้โครงการนี้ มีรูปแบบงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เมื่อเทียบกับคอนโดอื่นๆ ในทำเล ส่วนเรื่องการออกแบบยูนิต ที่นี่จะมาในคอนเซ็ปต์ FEEL LIKE HOME ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ด้วยสเปซและฟังก์ชั่นภายในห้องพักอาศัยได้ออกแบบพื้นที่เป็นสัดส่วน มีการทำครัวแบบปิด เพื่อใช้ในการทำอาหารอย่างจริงจัง จนถึงบางยูนิตที่เป็น Garden Access โดยประตูฝั่งระเบียงสามารถเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่สวนส่วนกลางที่เดินเชื่อมไปยังลานจอดรถได้ ราวกับว่ามีสวนหลังบ้านเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวนั่นเอง
พื้นที่ส่วนกลางสไตล์ Boutique Resort ความเรียบหรูที่ครบทุกการพักผ่อน
การใช้ชีวิตให้สมดุลในแต่ละด้านแบบ Work / Life Balance การพักผ่อนอย่างดีที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช ได้ถูกออกแบบให้รู้สึกเหมือนพักอยู่ในรีสอร์ทส่วนตัว รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 2,231 ตร.ม. ให้อารมณ์ความรู้สึกที่ผ่อนคลายสุดๆ แตกต่างจากพื้นที่ส่วนกลางคอนโดอื่นๆ เมื่อเทียบในทำเลเดียวกัน
อาคารพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะถูกโอบล้อมอยู่ระหว่างตัวอาคารด้านใน เชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบที่พักอาศัยจนถึงคลองพระโขนง
ซึ่งผู้อาศัยสามารถเดินเข้ามาจากหน้าโครงการโดยทะลุผ่านจากทางเดินสวนตรงกลางได้เลย
เริ่มต้นกันที่ Main Lobby และห้อง Co-Working Space ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 1 ด้านในของอาคาร A สามารถมาใช้รอรับ-ส่งของ รอรับอาหาร Delivery นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือพบปะพูดคุยกับเพื่อนได้ทุกเวลา
เมื่อเดินออกมาจาก Main Lobby จะเจอ Clubhouse 2 ชั้น ในสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ด้านหน้าชั้นล่างจะเป็นสระว่ายน้ำของโครงการที่มีชื่อว่า Signature Pop Pool มีลักษณะโค้งเว้าดูแปลกตา โดยตัวสระจะมีขนาด 19.91 x 4.56 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Lap Pool ส่วนออกกำลังกาย และส่วน Pool Spa ด้านข้างสำหรับคนที่ชอบนั่งแช่ฟองน้ำพุ Jacuzzi นอกจากนั้น ยังมีลูกเล่นในการเปลี่ยนสีจากแสงไฟ ถ้ามองกลางวันเราจะเห็นผิวน้ำเป็นสีฟ้าครามสบายตา
แต่พอเป็นกลางคืนเราจะเห็นสระว่ายน้ำกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆสีสันสดใส เพื่อให้ผู้พบเห็นสัมผัสได้ถึงความป๊อบมีสีสันตามคอนเซ็ปต์โครงการ
ถัดมาจะเป็นในส่วนของฟิตเนส ที่มีอุปกรณ์ครบครันทั้งในส่วนของ Weight Zone และ Cardio Zone ซึ่งทั้งตัวสระว่ายน้ำและฟิตเนสจะหันทิศออกไปทางฝั่งคลองพระโขนง ขณะออกกำลังกายก็จะสามารถมองวิวได้เพลินๆ
ส่วนพื้นที่ชั้น 2 ของ Clubhouse ด้านนอกเป็นพื้นที่ Rooftop Terrace ที่สามารถมานั่งเล่นชมวิว ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติมุมกว้าง หรือจะลงไปนั่งเล่นด้านล่างในลาน Waterfront Garden ที่อยู่ติดกับรั้วริมฝั่งคลองพระโขนงก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
แต่ถ้าใครเบื่อที่จะออกกำลังกายในฟิตเนส แล้วอยากจะออกมาวิ่งแบบเอ้าท์ดอร์ สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นๆ บริเวณด้านหลังโครงการที่ติดกับคลอง ยังมี Backyard Garden พร้อมลู่วิ่ง Signature POP Track สีชมพูสดใส ความยาว 150 เมตร เพื่อกระตุ้นความสนุกสดใสในการออกกำลังกาย เหนื่อยๆ ก็สามารถมานั่งพักภายใต้บรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ และลมพัดเย็นๆ ได้อีกด้วย
ครั้งแรกของแบรนด์ ASPIRE กับการดีไซน์ยูนิตในรูปแบบ Interlock Layout
การวางตำแหน่งของทั้ง 3 อาคารมีความลงตัว โดยตัวอาคารมีความสูง 8 ชั้น พื้นที่พักอาศัยส่วนใหญ่ เริ่มต้นที่ชั้น 2-8 โดยห้องพักทุกชั้น มีความสูง Floor to Ceiling อยู่ที่ 2.5 เมตร และมียูนิตพิเศษที่เชื่อมต่อสวนอีกด้วย
การวางผังของอาคาร สำหรับคนที่อยากได้วิวฝั่งที่หันออกด้านนอก ตึก A จะหันทิศไปทางตะวันตก (วิวชุมชนและตึก Apartment ใกล้เคียง) และ ตึก B จะหันหน้าทางทิศตะวันออก หรือฝั่งถนนสุขุมวิท (ได้วิวคลองเป็นเส้นทอดยาวไปสู่วิวเมือง) ส่วนอาคาร C จะหันเยื้องๆ ออกไปทางทิศเหนือ (วิวคลองแบบเต็มๆ และชุมชนโครงการบ้านเดี่ยวฝั่งตรงข้าม) ส่วนยูนิตที่หันเข้าด้านในก็จะได้วิวสวนและพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ แต่จะมียูนิตบางส่วนในช่วงกลางๆ ของตึก A ที่จะได้วิวคลองที่สามารถมองผ่านได้จากช่องระหว่างตึก B และตึก C
โดยทุกๆ อาคาร จะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ส่วนพื้นที่จอดรถอยู่ที่ชั้น G ของแต่ละอาคาร รองรับได้ถึง 208 คัน (คิดเป็น 38%) ไม่รวมซ้อนคัน
การเลือกอาคารขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน โดยคนที่อยู่อาคาร A , B จะใกล้พื้นที่สวนสีเขียวที่เป็นแนวยาวและทางเข้า-ออกที่สุด ส่วนอาคาร C ที่อยู่ด้านในสุดโครงการ จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ทุกอาคารจะใกล้ตัวอาคาร Clubhouse ซึ่งอยู่ใจกลางพื้นที่ส่วนกลาง เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ชมวิวธรรมชาติ ทำกิจกรรมในลานกว้างๆ และชอบว่ายน้ำ
ในส่วนห้องชุดหลักๆ มี 3 แบบ ซึ่งตัวโครงการนี้ก็มีแปลนห้อง Layout หลากขนาดพื้นที่ใช้สอยถึง 7 ขนาด ได้แก่
- Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Flexi ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 36 ตร.ม.
- 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 41, 50 และ 52 ตร.ม.
ทั้งนี้ ทางโครงการยังมี Exclusive Units ที่อยู่ชั้น G ของตึก C ฝั่งที่หันออกไปยังสวน Backyard Garden ซึ่งเป็นห้อง Garden Access ที่สามารถเดินเข้า-ออกประตูฝั่งระเบียงได้อีกด้วย
แต่สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ มีให้ชม 2 แบบ คือห้อง 1 Bedroom Plus 36 ตร.ม., 2 Bedroom 50 ตร.ม. ซึ่งเป็น Type ห้องที่เป็นยูนิตส่วนใหญ่ของโครงการ โดยโครงการนี้จะขายแบบ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่จัดไว้เป็นเพียง Inspiration เท่านั้น ไม่ได้ให้ทั้งหมด ส่วนเฟอร์นิเจอร์และวัสดุอุปกรณ์ที่จะได้เหมือนแบบในห้องตัวอย่าง คือ Pantry ครัว, ตู้เสื้อผ้า และวัสดุภายในห้องน้ำ และด้วยการออกแบบแปลนห้องด้วยรูปแบบ Interlock Design ทำให้ยูนิตกว่า 99% ของโครงการการ ได้เป็นครัวแบบปิดด้วย
เริ่มกันที่ห้องตัวอย่าง Type 1 Bedroom Plus ขนาด 36 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ และครัวแบบปิด
ห้องรูปแบบ Interlock Layout ที่ได้ห้องหน้ากว้างพิเศษ แถมเป็น Flexible Function Unit
คุณสามารถปรับเปลี่ยน Living Space ให้กลายเป็นห้องนอนได้อีก 1 ห้อง หรือปรับเป็นห้องดูหนัง, ห้องทำงาน หรือ Walk-in Closet ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
และยังได้ครัวระบบปิด โดยมีฉากกั้นบานเลื่อนแยกโซนให้อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันกลิ่นขณะทำอาหาร ซึ่งในส่วนของ Dining Space กว้างขวางพอที่จะสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้สบายๆ
ห้องน้ำเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น สุขภัณฑ์เป็นของยี่ห้อ COTTO โดยส่วนเปียกจะไม่มีฉากกั้นมาให้
ส่วนห้องนอน สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ โดยที่ด้านข้างมีสเปซมากพอที่จะจัดมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนประตูห้องนอน ทางโครงการเลือกใช้ประตูบานสวิง เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ให้รู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่บ้าน
ส่วนใครที่มองหาพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ห้องตัวอย่าง Type 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตร.ม. จะเน้นการดีไซน์ให้พื้นที่ห้องหน้ากว้างพิเศษ ฟังก์ชั่นแต่ละส่วนเปิดกว้าง มีขนาดใหญ่ สามารถใช้ชีวิตร่วมกันหลายคนได้อย่างสบาย มีมุมส่วนตัว และไม่อึดอัด
โดยตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Dinning และ Living Space แบบติดอากาศ สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 4 ที่นั่งได้สบายๆ
โดยส่วนครัวก็ยังเป็นระบบปิด มีฉากกั้นบานเลื่อนแยกโซนให้อย่างเป็นสัดส่วน
ส่วนของห้องนอนจะแยกแต่ละห้องไปทางปีกซ้ายและปีกขวา เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวมากที่สุด
ตัว Master Bedroom สามารถเข้าห้องน้ำได้ในตัว ซึ่งเป็นประตูแบบ Double Access เข้าได้จากห้องนั่งเล่นอีกทาง
ส่วนห้องนอนที่ 2 ถึงจะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ก็จะได้กระจกเข้ามุมเปิดรับวิวที่มากกว่า
สรุปผลการวิเคราะห์โครงการ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช และศักยภาพการลงทุน
ภาพรวมของโครงการดูจะมีข้อดีในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา และเรื่องของการดีไซน์ที่แตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ การจัดแปลนห้องก็ดูออกแบบมาน่าสนใจ มีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบมีความ compact ให้สัดส่วนของฟังก์ชั่นกับพื้นที่แบบพอดีๆ และแบ่งพื้นที่การใช้งานแต่ละห้องออกเป็นสัดเป็นส่วนดี แม้แต่ห้อง Type เล็กสุดของโครงการยังได้ห้องครัวปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร โดยเฉพาะย่านอ่อนนุชเป็นย่านที่สามารถหาซื้อของสดมาทำกินได้ง่ายมากๆ ส่วนด้านวัสดุนั้น ให้มาแบบ Fully Fitted จะได้เพียงเฟอร์นิเจอร์พื้นฐาน เช่น Pantry ครัว รวมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และฮู้ดดูดควัน พร้อมแถมเครื่องปรับอากาศให้ครบทุกห้อง ส่วนตัวห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูป วัสดุและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็ให้มาดีตามมาตรฐาน ด้านพื้นที่ส่วนกลางคอนโดนั้นก็มีครบตามพื้นฐาน แต่จะมีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์พอสมควร ทำให้ดูน่าใช้งานมากขึ้น เมื่อเสริมกับวิวและบรรยากาศติดคลองของที่ตั้งโครงการ
เรื่องสัดส่วนที่จอดรถ 38% อาจจะอยู่ในระดับกลางๆ ในขณะที่ตัวโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช เกือบ 2 กิโลเมตร และต้องเข้าซอยอ่อนนุช 21 อีกประมาณ 200 เมตร อาจจะโดนใจคนใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักมากกว่า แต่โครงการก็จะมีรถตู้บริการรับส่งถึงรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชให้ สำหรับคนที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยตัวเอง ส่วนคนที่ไม่ติดเรื่องการต่อรถโดยสารสาธารณะ ก็ยังถือว่าเดินทางสะดวก เนื่องจากรถโดยสารมีให้บริการเยอะมาก จนถึงช่วงดึกๆ จึงไม่ได้มองว่าการเข้ามายังโครงการเป็นเรื่องที่ดูลำบากมากเท่าไหร่ ในขณะที่ทำเลตรงนี้ถือเป็นทำเลที่นิยมทำโครงการบ้านเดี่ยวหรูและทาวน์โฮม 3-4 ชั้น ในระดับพรีเมียมเสียส่วนใหญ่ และมีราคาขายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน หากมองอีกแง่ในด้านข้อดีของทำเลโครงการนี้ คือจะได้ความสงบเป็นส่วนตัวเหมือนอยู่บ้านมากขึ้น หลีกหนีความพลุกพล่านของเมืองและชุมชนติดถนนใหญ่ และยังได้ราคาเฉลี่ยที่ยังไม่สูงมาก อยู่ที่ 7x,xxx – 8x,xxx บาท / ตร.ม. ซึ่งมองว่ายังคุ้มค่าและสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้อยู่พอสมควร ในขณะที่โครงการต้นซอยใกล้รถไฟฟ้าในอีกระดับ Segment ที่เน้นขึ้นอาคารแบบ High Rise ราคาเฉลี่ยสูงถึง 140,000 บาท / ตร.ม. แต่ในเรื่องของดีไซน์และความน่าใช้งานของ Facility โครงการ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช ก็ยังนับว่ายังสู้ได้ระดับนึง ถึงแม้ว่านี่จะเป็นแบรนด์ Segment ล่างสุดในกลุ่มคอนโดเอพีก็ตาม
ปัจจุบันคอนโดในย่านอ่อนนุช สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าโซนสุขุมวิทตอนกลาง และมีคอนโดหลายระดับราคาให้เลือก ซึ่งตลาดปล่อยเช่ายังให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับสูงถึง 5-7% เลยทีเดียว เป็นหนึ่งในทำเลที่คนต่างสนใจไม่เฉพาะกับกลุ่มคนไทย แต่ยังเป็นที่สนใจในหมู่ชาวต่างชาติอีกด้วย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านสุขุมวิท ก็เริ่มหันมาเลือกเช่าที่อยู่อาศัยย่านนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ซึ่งปกติที่ผ่านมากลุ่มนี้จะนิยมอยู่ย่านทองหล่อ เอกมัยเป็นหลัก เพราะผู้เช่าต่างชาติกลุ่มนี้มองว่า ย่านอ่อนนุชสามารถเดินทางสะดวกไม่แพ้การอยู่ทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งใช้เวลาไม่กี่นาทีตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยคล้ายกัน แต่อัตราค่าเช่าไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราค่าเช่าคอนโดย่านใจกลางเมือง และนี่อาจส่งผลให้โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ที่นักลงทุนรอคอยดูกระแส เพื่อซื้อเก็บไว้เพื่อปล่อยเช่าระยะยาว
เปลี่ยนชีวิตของคุณให้ POP กว่าที่เคย “ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช” ไลฟ์สไตล์คอนโดรูปแบบใหม่ สไตล์โคโลเนียลป๊อบ ใกล้ BTS อ่อนนุช และทางด่วน เดินทางสะดวก ให้คุณใช้ชีวิตเต็มที่ในทุกวัน
เปิดจองครั้งแรก รอบ AP iBooking 26 ก.พ.นี้ เวลา 19.00-21.00 น. (สามารถทดลอง Test iBooking ก่อนวันจองจริงได้ในวันที่ 25 ก.พ.62 เวลา 09.00-12.00 น.) และเปิดรอบ PRE-SALE ที่สำนักงานขาย 2-3 มี.ค.นี้ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ!! ฟรี! เฟอร์นิเจอร์* ฟรี! Digital Door Lock* ผ่อนเดือนละ 3,900 บาท* เริ่ม 1.89 ล้าน* ลงทะเบียนออนไลน์วันนี้ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท* คลิก https://goo.gl/vuW3sj
